วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

Samsung Galaxy J7+ สมาร์ทโฟนเลนส์คู่ ราคาประหยัด เปิดพรีออเดอร์พร้อม Note 8


ไม่เพียงแค่ Note 8 เท่านั้น ที่ทางซัมซุงได้ทำเทคโนโลยีเลนส์คู่มาให้ใช้งานกัน แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกในการสัมผัสสมาร์ทโฟนเลนส์คู่กาแลคซี่จากทางซัมซุงด้วย Samsung Galaxy J7+ พี่ใหญ่คนใหม่จากตระกูล J สมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์ ที่สามารถถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยทาง ซัมซุง ประเทศไทย ได้เปิดราคาที่ 12,900 บาท พร้อมพรีออเดอร์ ในวันที่ 1 - 17 กันยายน 2560 และรับของในวันที่ 22 กันยายน เช่นเดียวกับ Galaxy Note 8
ด้านของสมนาคุณการจองล่วงหน้าก็ไม่น้อยหน้า โดยสำหรับผู้ที่ทำการพรีออเดอร์ จะได้รับหูฟังไร้สาย Samsung U Flex ไปใช้งานคู่กับ Samsung Galaxy J7+ อีกด้วย และสำหรับลูกค้าที่จองผ่าน Samsung Brand Shop จะได้รับ Soft Cover สี Clear ไปปกป้องมือถือเครื่องโปรดอีกต่อหนึ่ง
ส่วนสเปคหลักๆ ของ Samsung Galaxy J7+ ก็ประกอบไปด้วย
หน้าจอ 5.5 นิ้ว FHD sAMOLED
เทคโนโลยีประมวลผล Octa-core 2.39 GHz
แรม 4 GB / รอม 32 GB / เพิ่ม SD Card ได้สูงสุด 256 GB
กล้องหลังความละเอียด 13 MP f/1.7 และ 5 MP f/1.9
กล้องหน้าความละเอียด 16 MP f/1.9
ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
สีให้เลือก 3 สี : ดำ, ทอง, ชมพู
นอกจากนี้ Samsung Galaxy J7+ ก็ยังรองรับการใช้งาน หลายหน้าจอ (Multi Window) สูงสุดถึง 5 หน้าจอ, Bixby และ ปลดล็อคเครื่องด้วยรูปหน้า ได้อีกด้วย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสาวกซัมซุง ที่อยากจะเล่นกล้องคู่แบบหน้าชัด-หลังละลายนะครับ เตรียมไปพรีออเดอร์กันไว้เลย

 ที่มา : Samsung Thailand

ไมโครซอฟท์ เปิดตัว Surface Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 30,900 บาท


ไมโครซอฟท์ เปิดตัว Surface Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมด้วยพลังแบตเตอรี่ ที่ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 13.5 ชั่วโมง หน้าจอสัมผัส Pixel Sense™ ขนาด 12.3 นิ้ว อัดแน่นไปด้วยขุมพลังจาก Intel 7th Generation ทำงานได้เร็วกว่า Surface Pro 3 รุ่นเก่าถึง 2.5 เท่า ไม่เพียงแต่ใช้งานได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น Surface Pro รุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้ มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ใหม่ "ไร้พัดลม" จึงทำงานได้อย่างเงียบกริบ ไม่มีเสียงพัดลมกวนใจ ตัวเครื่องบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร โดยน้ำหนักเริ่มต้นที่ 0.76 กรัม ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกสบาย
นอกจากอัพเกรดตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถทำงานได้อย่างลงตัว ร่วมกับอุปกรณ์เสริม อย่าง Surface Pen ที่ตอบสนองแรงกดได้มากกว่าเดิมถึง 4 เท่า, Surface Pro Type Cover หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara ทำให้มีความสวยงาม ทนทาน ดูแลรักษาง่าย, Surface Arc Mouse ปรับความโค้งงอหลายระดับ เข้ากับรูปร่างมือ ของผู้ใช้

ในส่วนของ ซอฟต์แวร์  Surface Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ใช้งานร่วมกับ Microsoft Office 365 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ใน Word, Excel, PowerPoint ที่ดีกว่าเดิม รองรับการใช้งาน Windows Hello บน Windows 10 Creators Update ได้อีกด้วย

Canon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารัก


มิลเลอร์เลสรุ่นเล็กสเปคน่าสนเผยตัวมาอีกรุ่น ซึ่งนั่นก็คือ Canon M100 ที่เข้ามาแทนที่ มิลเลอร์เลสรุ่นราคาย่อมเยาอย่าง M10 โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือความละเอียดภาพที่อัพเกรดขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 24.2 ล้านพิกเซล จากเดิม 18 ล้านพิกเซลของรุ่น M10
ถึงแม้ว่า M100 จะเป็นมิลเลอร์เลสระดับล่างสุดของ Canon แต่ก็ดูถูกมันไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะว่ามันเลือกใช้เซ็นเซอร์ภาพตัวเดียวกับมิลเลอร์เลสรุ่นท็อปอย่าง M5 และ M6 พร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพรุ่นล่าสุด Digic 7 ทำให้สามารถถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องได้ที่ความเร็วสูงถึง 6.1 ภาพต่อวินาที และค่าความไวแสง ISO สามารถเลือกได้อยู่ในช่วง 100 - 25,600 ซึ่งเป็นสเปคที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับมิลเลอร์เลสรุ่นราคาประหยัด แถมยังมาพร้อมกับระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel ทำให้สามารถหาโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งหรือวีดีโอ ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นของมิลเลอร์เลสจากค่าย Canon และในส่วนของการถ่ายวีดีโอ ยังคงจำกัดความละเอียดสูงสุดเอาไว้ที่ 1080p 60fps
Image Slider Arrow LeftImage Slider Arrow Right1 / 11Canon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารักCanon M100 มาแล้ว กล้องมิลเลอร์เลสรุ่นเล็กงานดี ราคากำลังน่ารัก
หน้าจอ LCD แบบสัมผัสขนาด 3.0 นิ้ว สามารถพลิกหมุนมาด้านหน้าเพื่อเซลฟี่ได้เลย รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้งแบบ Wi-Fi, Bluetooth และ NFC สำหรับการส่งภาพ และใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทชัตเตอร์ และมีโหมดการถ่ายภาพแบบ Creative Assistant ที่ทำให้มือใหม่สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างง่ายๆ

กลุ่มเป้าหมายของ Canon M100 คือตากล้องมือใหม่ที่อยากก้าวเข้ามาสู่โลกของมิลเลอร์เลส หรือคนที่อยากได้กล้องตัวแรกที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ตัวกล้องมี 2 สีให้เลือกคือ สีเงิน และสีดำ โดยวางราคาขายตัวกล้อง พร้อมเลนส์ 15-45 mm f/3.5-6.3 เอาไว้ที่ $600 (ประมาณ 19,900 บาท) หรือถ้าต้องการจัดชุดแบบมีเลนส์ 55-200 mm f/4.5-6.3 เพิ่มอีกตัว ราคาจะอยู่ที่ $950 (31,500 บาท)  และสำหรับสาวก Canon ที่มีเลนส์เมาท์ EF เจ๋งๆ อยู่แล้ว ก็สามารถซื้อตัวอะแดปเตอร์แปลงเมาท์เลนส์ EF-M มาใช้งานกับกล้อง M100 ได้เลย และกำหนดการวางจำหน่ายของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่เดือน ตุลาคม 2017
ที่มา : www.engadget.com

MediaTek Helio P23 และ P30 ความหวังใหม่ของสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา อาจได้ใช้กล้องคู่นะ


สำหรับคนที่ชอบใช้แอนดรอยด์สมาร์ทโฟนราคาไม่แรง สมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปประมวลผลของ MediaTek คือตัวเลือกอันดับต้นๆ และในตอนนี้ทาง MediaTek ก็ได้เปิดตัวชิปใหม่อีก 2 ตัวซึ่งก็คือรุ่น Helio P23 และ Helio P30
ซึ่งภายในชิปรุ่นใหม่ทั้ง 2 ตัวนั้นก็มีองค์ประกอบแทบจะทุกอย่างที่สมาร์ทโฟน 1 เครื่องต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 2 ซิมการ์ด และฟังก์ชั่น 4G LTE โดยที่ทั้ง P23 และ P30 มีแปดแกนประมวลผล ความเร็ว 2.3GHz และหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Mali G71 MP2 และมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่าง CorePilot 4.0 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นล่าสุดของระบบตรวจสอบระดับอุณหภูมิของชิป เพื่อให้ชิปมีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด
และสำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ทั้งชิป MediaTek Helio P23 และ P30 รองรับการใช้งานกับระบบกล้องเลนส์คู่ โดยรองรับความละเอียดของเซ็นเซอร์ภาพได้สูงสุดถึง 16 ล้านพิกเซล (13 ล้านพิกเซลในรุ่น P23) และในชิปมีเทคโนโลยี Imagiq 2.0 ลดการเกิดสีสันผิดเพี้ยน และช่วยลดเม็ดสีรบกวนหรือ Noise ในภาพถ่าย
โดยทั้งชิป P23 และ P30 ไม่ได้อ่อนด้อยในเรื่องการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โดยทาง MediaTek เคลมว่า P23 เป็นชิปรุ่นแรกของโลกที่รองรับ 2 ซิม และสามารถรองรับระบบ 4G VoLTE (Voice over LTE) ได้ทั้ง 2 ซิม และรองรับความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูงถึง 300 Mbps และอัพโหลดได้ที่ความเร็ว 150 Mbps
โดยที่คุณ TL Lee ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ MediaTek Wireless Communication unit กล่าวว่า "การส่งชิปตัวใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางลงตลาด ทำให้ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีล่าสุดอย่างกล้องคู่ และการเชื่อมต่อ 4G LTE ได้โดยไม่ต้องจ่ายแพง และในสภาพที่ตลาดสมาร์ทโฟนราคาระดับกลางยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างมองหาสิ่งที่จะทำให้สมาร์ทโฟนของตนโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่ง และชิป P23 และ P30 คือคำตอบ"


โดยคาดว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Helios P23 และ P30 จะเริ่มลงสู่ท้องตลาดในช่วงปลายปีนี้
ที่มา : www.digitaltrends.com

Intel เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ Xeon-W สำหรับเครื่องระดับ Workstations


ในวันนี้ ทางค่าย Intel ได้ประกาศเปิดตัว Xeon-W โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับ Workstations พัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยีของสถาปัตยกรรม Skylake-SP ซึ่งออกมาเพื่อแข่งขันกับโปรเซสเซอร์ EPYC ของค่าย AMD ทั้งนี้ Xeon-W มีการปรับเปลี่ยนชื่อรุ่นจากเดิมที่ใช้เป็น E5 และ E7 เป็น Platinum, Gold, Silver และ Bronze ด้วย
อินเทลเผยว่า Xeon-W จะช่วยลดช่องว่างระหว่างเครื่องระดับเซิฟเวอร์กับเครื่องส่วนบุคคลให้ใกล้กันมากกว่า และจะมาแทนที่โปรเซสเซอร์ซีรีย์ตระกูล E5-1600 โดยตรง ซึ่งหมายความว่าเราจะได้เห็นโปรเซสเซอร์ Skylake-SP Xeons บน Socket LGA2066 (หรือ Socket R4) ที่มาพร้อมกับลูกเล่นของโปรเซสเซอร์ระดับมืออาชีพด้วย
ที่มา : www.anandtech.com

ASUS เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ด้วยโน้ตบุ๊คเกมมิ่งตัวใหม่ ที่มาพร้อมจอแบบ 144Hz สุดเทพ

เมื่อไม่นานมานี้ ในงาน IFA 2017 ทาง ASUS ส่งแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ อย่าง ROG ไปโชว์สินค้า เกมมิ่งโน้ตบุ๊ค ROG Strix SCAR Edition และ ROG Strix HERO Edition ซึ่งทั้งสองรุ่น ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะ ให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์แนว FPS กับแนว MOBA ด้วยจอแสดงผล 15 นิ้ว, 17 นิ้ว แบบ 120Hz ทำงานร่วมกับ ซีพียู Intel 7th Generation และ การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 10 สำหรับเกมส์แนวไหน จะเหมาะรุ่นอะไร ไปดูกัน


ขึ้นชื่อว่าเป็น เกมส์แนว FPS แล้วนั้น ต้องวัดกันที่ "ความเร็วเพียงเสี้ยววินาที" หน้าจอจึงมีผลมาก หากช้ากว่าคู่ต่อสู้นิดเดียว อาจจะทำให้พ่ายแพ้ได้ ดังนั้นเกมมิ่งโน้ตบุ๊ค ROG Strix SCAR Edition จึงได้ออกแบบให้ตอบโจทย์คอเกมส์ FPS ด้วยหน้าจอ ที่มีความเร็วในการแสดงผลถึง 120Hz/5ms หากน้อยไป สามารถปรับเพิ่ม ได้ถึง 144Hz/7ms ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้กับการมองเห็นอย่างมาก พร้อมด้วยซีพียูและการ์ดจออันทรงพลัง จาก Intel และ NVIDIA

หากคุณชอบเล่นเกมส์ MOBA อย่าง League of Legends หรือ DOTA 2 ที่ต้องใช้ "ความแม่นยำในการกดปุ่ม" เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ROG Strix HERO Edition ก็ได้ออกแบบมาให้มี หน้าจอแสดงผล 120Hz แบบ Wide-View Display แสดงสี sRGB ได้ถึง 100% และ เพิ่มความเข้มของ Contrast พร้อมด้วยคีย์บอร์ด แบบ N-key rollover ที่สามารถกดพร้อมกันได้มากกว่า 6 ปุ่ม รองรับการกดได้มากกว่า 20 ล้านครั้ง เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การเล่นให้ดียิ่งขึ้น ด้วยซีพียูจาก Intel และการ์ดจอ NVIDIA


กล่าวสั้นๆได้ว่า ในสมัยนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนนั้น ก็เจอแต่เกมมิ่งเกียร์เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เกมมิ่งเมาส์ (Gaming Mouse), เกมมิ่งคีย์บอร์ด (Gaming Keybord), เกมมิ่งพีซี (Gaming PC), เกมมิ่งโน้ตบุ๊ค (Gaming Notebook) และอื่นๆ อีกมากมาย ให้แก่เหล่าเกมเมอร์ได้เลือกซื้อ เลือกหากัน
ที่มา : www.engadget.com , www.asus.com

Sony เปิดคัว Xperia XZ1 และ XZ1 Compact มาพร้อม Android O และระบบกล้องสแกน 3 มิติ


ช่วงนี้ Sony ขยันออกรุ่นใหม่บ่อยจริงๆ ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Xperia XZ1 และ Xperia XZ1 Compact โดยเป็นรุ่นที่จะมาแทนที่ XZ และ X Compact ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ทั้งคู่มาพร้อมกับ Snapdragon 835 และแรมขนาด 4GB ซึ่งทั้งคู่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในท้องตลาดที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ตั้งแต่แกะกล่อง
ทั้งคู่มาพร้อมกับกล้องหลัง 19MP ใส่เทคโนโลยี Sony Motion Eye ที่ก่อนหน้านี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่น XZ Premium เมื่อไม่นานมานี้ และยังมี Predictive Capture ที่บันทึกภาพล่วงหน้าก่อนที่เราจะกดชัตเตอร์ได้อีกด้วย ลูกเล่นในบันทึกวีดีโอแบบ 4K และ การถ่าย Super slow motion 960fps ที่ 720p ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน ระบบกันสั่นสามารถใช้งานได้ในโหมดวีดีโอ แต่ภาพนิ่งยังไม่สามารถใช้งานกันสั่นได้เหมือนเดิม ในส่วนของกล้องหน้า XZ1 จะให้มี 13MP ส่วน XZ1 Compact จะให้มา 8MP
สำหรับลูกเล่นใหม่จากทาง Sony ก็คือ 3D Creator ที่ทำให้เราสามารถใช้กล้องสแกนวัตถุออกมาเป็นโมเดล 3 มิติได้ ซึ่งสามารถสั่งพิมพ์อกมาผ่าน 3D Printer หรือเล่นกับ AR ได้ด้วย ซึ่งในอนาคตทาง Sony วางแผนที่จะร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมส์ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ด้วย ในการให้ผู้เล่นสร้างตัวละครเหมือนตัวเราเข้าไปในเกมได้
XZ1 มีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว 1080p HDR ส่วน XZ1 Compact จะใช้หน้าจอ 4.6 นิ้ว 720p ทั้งคู่มาพร้อมกระจก Gorilla Glass 5 และกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68

สำหรับราคาในประเทศไทย ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งราคาของ XZ1 น่าจะอยู่ที่ 25,900 บาท ส่วน XZ1 Compact น่าจะอยู่ที่ 21,900 บาท ทั้งนี้หากมีการประกาศราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อไหร่ เราจะมาอัพเดทให้อ่านกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
            ที่มา :  www.sonymobile.com ,  www.theverge.com